วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

กฎหมายในการจัดการกับ Spam mail

  




       จดหมายขยะ (สแปมเมล) นับว่าเป็นอีกปัญหาใหญ่ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เพราะผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนมักจะถูกรบกวน และทำให้ตู้รับจดหมายอีเมลเราเต็มไปด้วยจดหมายโฆษณาที่เราไม่ต้องการ ก่อให้เกิดความรำคาญกับผู้ที่ใช้งาน และอาจยังมีภัยคุกคามอื่นแอบแฝงมาพร้อมกับจดหมายเหล่านี้ด้วย เช่น ไวรัส, สปายแวร์, หรือแม้แต่กลลวงทางการเงิน (Phishing)

     หลายคนคงสงสัยว่าสแปมเมลคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร คำตอบคือ แสปมเมลเป็นการส่งอีเมลจำนวนมากๆ ในแต่ละครั้งหนึ่ง หรือทะยอยส่ง แต่ส่งจำนวนมากฉบับ สำหรับวัตถุประสงค์ในการส่งนั้น มีหลากหลาย ตั้งแต่การโฆษณาสินค้า เว็บไซต์ลามก การพนันออนไลน์ การโจมตีระบบ การกลั่นแกล้ง ชักจูงใจต่างๆ รวมถึงการหลอกเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล และขโมยเงิน

     ตัวอย่างสแปมเมลที่เป็นการหลอกลวง เช่น อีเมลส่งมาว่าผู้รับโชคดีถูกรางวัลล็อตเตอรี่จากต่างประเทศ แต่ในการที่จะไปรับมูลค่าตั้งหลายพันล้านนั้นก็จะต้องมีการโอนเงินค่าภาษีไปชำระก่อนล่วงหน้า เพื่อการคงสิทธิ์ในเงินรางวัลก้อนนี้เอาไว้ เมื่อเราได้ดำเนินการโอนเงินไปให้เรียบร้อยแล้ว  อีเมลนั้นก็เงียบหายไม่เคยติดต่อกับมาอีกเลยเป็นต้น หรืออีเมลที่อ้างว่าส่งมาจากธนาคาร และหลอกให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินบนเว็บไซต์ที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมา

     กฎหมายใช้ในการเอาผิดกับสแปมเมลคือ พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 11ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท” (มีแต่โทษปรับไม่มีโทษจำคุก) ส่วนกรณีที่สแปมเมลสร้างความเสียหายดังเช่นตัวอย่างข้างต้น ก็สามารถนำกฎหมายอาญาเรื่องการฉ้อโกง มาตรา 341 คือ ผู้ใดโดยทุจริตหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม รวมถึงการหลอกลวงให้ทำ ถอน หรือ ทำลายเอกสารสิทธิ   ผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับมาใช้เพื่อเพิ่มบทลงโทษได้

     ข้อแนะนำสำหรับการป้องกันสแปมเมล วิธีที่ดีสุดคือการที่ป้องกันไม่ให้คนที่ไม่รู้จักได้รู้อีเมลแอดเดรสของเรา ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

     1.ไม่ตอบกลับอีเมลที่ส่งมาเพราะเท่ากับเป็นการยืนยันอีเมลแอดเดรสของคุณและทำให้คุณตกเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น
     2.ไม่ควรใช้อีเมล์แอดเดรสที่ใช้ในองค์กร หรือที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ในการลงทะเบียนใดๆ บนอินเตอร์เน็ต
     3.ไม่ซื้อสินค้าใดๆที่โฆษณาทางสแปมเมลเพราะจะทำให้ผู้ส่งสแปมเมลใช้วิธีนี้ส่งมาเรื่อยๆ

     4.ถ้าเมื่อใดที่เจออีเมลประเภทสแปมเมลหลอกลวง ให้ทำการส่ง Header หรือหัวจดหมายของอีเมลฉบับนั้น ไปให้กับทางผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ที่ใช้งานอยู่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น